รายละเอียดเพิ่มเติม
พลาสติกโรงเรือนเป็นสิ่งที่สำคัญในเกษตรยุคใหม่ เปรียบเหมือนเกราะป้องกันแสงแดด ฝน และลม ช่วยให้เกษตรกรปลูกพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้สภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงไป พลาสติกใสมุงหลังคาโรงเรือนจะเป็นเหมือนเกราะป้องกันทำให้ผลผลิตยังดีอยู่ และสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี ทำให้เพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้นอีกด้วย
พลาสติกคลุมโรงเรือนมีประโยชน์ในการป้องกันฝน ป้องกันแมลง รักษาความชื้น ควบคุมอุณหภูมิ สร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะแก่การเจริญเติบโตของพืช ซึ่งก็จะส่งผลให้ เพิ่มผลผลิต ยืดอายุการเก็บเกี่ยว รวมไปถึงช่วยให้สามารถปลูกพืชนอกฤดูกาลได้
พลาสติกใสคลุมโรงเรือนมีหลายประเภทตั้งแต่พลาสติกธรรมดา และพลาสติกแบบผสมสารป้องกันUV ซึ่งส่งผลต่ออายุการใช้งานที่แตกต่างกัน พลาสติกที่ใส่สารป้องกันUVจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ซึ่งการใส่สารกันUVมองด้วยตาเปล่าไม่ออก ดังนั้นการเลือกพลาสติกโรงเรือนควรเลือกซื้อกับผู้ขายที่เชื่อถือได้
การเลือกพลาสติกโรงเรือนเหมือนการเลือกผู้ช่วยคนสำคัญของเรา ช่วยให้การเกษตรมีประสิทธิภาพ ผลผลิตสูง และสร้างรายได้ให้เกษตรกรอย่างยั่งยืน
ตารางขนาดพลาสติกโรงเรือน
แต่ละพื้นที่จะเรียกพลาสติกคลุมโรงเรือนแตกต่างกัน บางพื้นที่เรียก ผ้ายางคลุมโรงเรือน บางพื้นที่เรียก ผ้าใบคลุมโรงเรือน แต่จริงๆแล้วคือสินค้าเดียวกัน
ทางเรามีให้เลือกพลาสติกคลุมโรงเรือนหลากหลายหน้ากว้างตั้งแต่ 3 เมตร, 4เมตร ,5เมตร และ 6 เมตร ส่วนความหนามีให้เลือกตั้งแต่ 100 ไมครอน ,150 ไมครอน ,200ไมครอน และ 250 ไมครอน และการใส่สารป้องกันUV ของเรานั้นใส่แบบสารป้องกัน UV7% ซึ่งเป็นเกรดที่ป้องกัน UV ได้ดีที่สุด
กว้าง ยาว หนา %UV 3 เมตร 100 เมตร 100 mc 7% 3 เมตร 100 เมตร 150 mc 7% 3 เมตร 100 เมตร 200 mc 7% 3 เมตร 100 เมตร 250 mc 7% 4 เมตร 100 เมตร 100 mc 7% 4 เมตร 100 เมตร 150 mc 7% 4 เมตร 100 เมตร 200 mc 7% 4 เมตร 100 เมตร 250 mc 7% 5 เมตร 100 เมตร 150 mc 7% 5 เมตร 100 เมตร 200 mc 7% 6 เมตร 100 เมตร 100 mc 7% 6 เมตร 100 เมตร 150 mc 7% 6 เมตร 100 เมตร 200 mc 7%
คุณสมบัติของพลาสติกคลุมโรงเรือนตราคนยิงธนู
1.การกระจายแสงที่ดี
พลาสติกใสคลุมโรงเรือนของเรานั่นจะช่วยกระจายแสงแดดอย่างสม่ำเสมอไปทั่วโรงเรือน จะช่วยให้พืชได้รับแสงแดดที่เพียงพอทั่วทั้งโรงเรือน ไม่มีจุดใดที่ได้รับแสงไม่เพียงพอ และไม่มีจุดใดได้รับแสงแดดมากเกินไป
2.ทนทานต่อรังสียูวี
พลาสติกโรงเรือนของเราใส่สารป้องกันUV7% ซึ่งในตลาดทั่วไปจะมีการใส่สารกันUV ตั้งแต่3-7% ซึ่งของเราเป็นการใส่สารกันUV เกรดสูงสุดคือ 7% ซึ่งจะช่วยให้พลาสติกมีอายุการใช้งานที่นานยิ่งขึ้น ทนต่อแสงแดดได้ดียิ่งขึ้น
3.ทนทานต่อสภาพอากาศ
พลาสติกเหนียวดี ไม่ขาดง่าย ทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีได้ เช่นพายุ ลมแรง ฝนตกหนัก เศษกิ่งไม้กระแทก
4.แสงส่องผ่านได้ดี
พลาสติกโรงเรือนของเรานั้นแสงสามารถส่องผ่านได้ดี เพียงพอต่อให้พืชเจริญเติบโต
วิธีเลือกพลาสติกใสคลุมโรงเรือน
4 ปัจจัยหลักๆ ในการเลือกขนาดพลาสติกโรงเรือนก็คือ ความหนา ความกว้าง ความยาว และสารป้องกันUV
1.เลือกผ่านความหนา
- พื้นที่ๆลมแรง : เลือกพลาสติกแบบหนา (200-250ไมครอน)
- พื้นที่ๆลมปานกลาง : เลือกพลาสติกหนาปานกลาง (150 ไมครอน)
- พื้นที่ๆลมไม่แรง : เลือกพลาสติกบาง (100 ไมครอน)
2.ความกว้าง
ให้วัดตามความโค้งของตัวโรงเรือนและบวกเพิ่มฝั่งละ 0.5 เมตร
3.ความยาว
ให้วัดตามความยาวของตัวโรงเรือนและบวกเพิ่มฝั่งละ 0.5 เมตรเช่นกัน
4.การเสริมป้องกันUV
เลือกแบบที่ใส่สารป้องกันUV7% เพราะจะทำให้พลาสติกทนกว่าแบบไม่ใส่สารป้องกันUVมากกว่ามาก
สิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกพลาสติกโรงเรือน จะได้ไม่เสียเงินฟรี
1.ประเภทของพืชที่ปลูก
พืชแต่ละชนิดต้องการแสงแดดไม่เท่ากัน ดังนั้นเลือกพลาสติกที่ส่งผ่านแสงได้เพียงพอต่อพืชที่เราปลูก
2.สภาพอากาศในพื้นที่ที่ปลูก
หากอยู่ในพื้นที่ๆ ลมแรง ฝนตกหนัก อาจจะต้องเลือกพลาสติกที่มีความหนาหน่อย เพราะพลาสติกที่หนาจะเหนียวและแข็งแรงกว่า ทนลม ทนฝนได้ดีกว่านั่นเอง
3.งบประมาณ
พลาสติกใสโรงเรือนมีตั้งแต่ราคาต่ำไปสูงขึ้นกับความหนาของตัวพลาสติก
พลาสติกหนาขึ้นราคาก็แพงขึ้นเป็นเรื่องปกติ ซึ่งถ้างบประมาณของเรามีน้อยก็อาจจะยังไม่ต้องเลือกตัวหนามากก็ได้ เลือกตัวที่พอใช้ได้ไปก่อน ปลูกแล้วมีกำไรมากขึ้น ค่อยนำกำไรมาซื้อพลาสติกเกรดที่ดีขึ้นได้
ทำไมต้องใช้พลาสติกคลุมโรงเรือน
1.การควบคุมสภาพแวดล้อม
- ควบคุมอุณหภูมิ : พลาสติกจะช่วยป้องกันความร้อนจากแดด รักษาอุณหภูมิภายในโรงเรือนให้เหมาะแก่พืชเจริญเติบโต
- ควบคุมแสงแดด : ลดแสงที่ส่องผ่านลงมา ทำให้พืชไม่ได้แสงมากเกินไป สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีกว่าที่แสงส่องลงโดนพืชโดยตรง
- ป้องกันฝน ลมแรง : พลาสติกจะช่วยป้องกันฝน ลมแรง น้ำค้าง และความชื้นด้วย ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดี โดยเราไม่ต้องกังวลเรื่องสภาพอากาศที่ไม่ดี
2.ป้องกันศัตรูพืช เข้ามาทำลายผลผลิต
- ป้องกันนก : พอเราทำโรงเรือนแบบปิด นกก็ไม่สามาถเข้ามาจิกกินผลผลิตของเราได้ ผลผลิตของเราก็จะไม่เสียหาย แถมผลผลิตของเราสมบูรณ์ เวลาขายก็จะได้รายได้ที่ดีอีกด้วย
- ป้องกันแมลง : ป้องกันเพลี้ยไฟ ผีเสื้อ หนอนเข้ามากัดกินพืชของเรา
3.เพิ่มทั้งผลผลิตและคุณภาพ
พลาสติกโรงเรือนสามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของพืชได้ดีกว่าในสภาพแวดล้อมภายนอก หลังจากติดตั้งแล้ว พืชสามารถได้รับแสงแดดเพียงพอและอุณหภูมิคงที่ตลอดเวลา ทำให้เจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยืดอายุการเก็บเกี่ยว ชะลอการเหี่ยวเฉาของพืช
พืชที่ปลูกในโรงเรือนมักจะไม่ได้ความเสียหายจากภัยธรรมชาติหรือแมลงศัตรูพืช ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพ สวยงาม ไร้แมลงกัดกิน ขายได้ราคาดีกว่านั่นเอง
4.ประหยัดต้นทุนลง
- ลดการใช้น้ำลง : แสงแดดที่ส่องผ่านลงมาน้อยลง ความชื้นในดินจะอยู่นานยิ่งขึ้น การใช้น้ำในการรดน้ำต้นไม้ก็จะน้อยลงตามไปด้วย
- ลดการใช้ยาฆ่าแมลง : เนื่องจากแมลงศัตรูพืช ไม่สามาถเข้ามาวางไข่ กัดกินผลผลิตได้ จึงใช้ยาฆ่าแมลงน้อยลง หรือไม่ใช้เลย
5.ปลูกพืชนอกฤดูกาลได้
การควยคุมสภาพแวดล้อมภายในโรงเรือน จึงทำให้เกษตรกรสามารถปลูกพืชนอกฤดูกาลได้ ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมารายได้มากยิ่งขึ้นเพราะการขายพืชนอกฤดูกาลจะได้กำไรดีกว่านั่นเอง
เลือกพลาสติกมุงหลังคาโรงเรือนไม่เหมาะกับพืชที่ปลูกส่งผลอย่างไร
พลาสติกมุงหลังคาโรงเรือนในตลาดมีอยู่หลายเกรด ถ้าเป็นเกรดไม่ดี อาจจะส่งผลให้แสงที่ส่องผ่านเข้ามาในโรงเรือนมากเกินไป หรือน้อยเกินไป
ถ้าแสงสว่างมากเกินไป
- ใบอาจจะไหม้ได้
- ลำต้นยืดตัว
- ผลผลิตต่ำกว่าที่ควร
แสงสว่างมากเกินไป สามารถแก้ไขด้วยการใช้สแลนกันแดดติดตั้งเพิ่มเติม ก็จะช่วยแก้ปัญหาได้
แสงสว่างน้อยเกินไป
- แสงไม่เพียงพอ การเจริญเติบโตช้า
- ใบเหลือง แห้งเหี่ยว
- ผลผลิตต่ำกว่าที่ควร
การดูแลรักษาพลาสติกใสโรงเรือนให้ใช้ได้นาน
- ตรวจดูว่ามีรอยรั่ว รอยฉีกขาด เพราะต่อให้เราใช้พลาสติกแบบดีแค่ไหน แต่ถ้ามีเศษของมีคมลอยมาบาดตัวพลาสติกของเราก็อาจจะขาดได้ ดังนั้นควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะซ่อมให้ทันท่วงที ไม่ขาดลุกลาม
- หมั่นดูแล ทำความสะอาดคราบสกปรก ฝุ่นละอองที่มาเกาะตัวพลาสติกอยู่เสมอ
อุปกรณ์ที่ใช้สร้างโรงเรือน
1.พลาสติกคลุมดิน : สำหรับป้องกันวัชพืชขึ้น ช่วยให้จัดการดูแลโรงเรือนง่ายขึ้น
2.มุ้งขาวกันแมลง : ป้องกันแมลงเข้ามากัดกินผลผลิต
3.สแลนกันแดด : ช่วยลดทอนแสงลง ให้พืชเจริญเติบโตได้ดี
ในต่างประเทศใช้โรงเรือนปลูกพืชอย่างไร
ไม่ใช่แค่ในไทยเท่านั้นที่นิยมปลูกพืชในโรงเรือน ในประเทศญี่ปุ่นที่เป็นประเทศชั้นนำเรื่องคุณภาพ ก็มีการเลือกใช้พลาสติกโรงเรือนเช่นกัน เพราะการใช้พลาสติกโรงเรือนช่วยในการควบคุมอุณหภูมิ และป้องกันผลผลิตเสียหายจากลมและหิมะ
พลาสติกคลุมโรงเรือนมีให้เลือกหลากหลายหน้ากว้างและความหนา ซึ่งการเลือกก็ต้องเลือกให้เหมาะกับขนาดของโรงเรือนที่จะสร้าง ส่วนเรื่องความหนาถ้าพื้นที่ลมแรงมาก ต้องเลือกใช้ตัวที่มีความหนามากหน่อยเพื่อป้องกันแรงลมและเศษกิ่งไม้ แต่ถ้าพื้นที่ลมไม่แรงมีสิ่งก่อสร้างคอยบังลม ก็อาจจะเลือกตัวที่ไม่หนาได้
ปลูกพืชผักในโรงเรือนให้ได้คุณภาพ ได้ราคา : อ่านต่อ
รีวิวจากลูกค้าตัวจริง
เราได้รวบรวมรีวิวจากลูกค้าของเราบางส่วน ลูกค้าสามารถอ่านรีวิวเพื่อความมั่นใจก่อนสั่งซื้อได้เลยนะครับ
สรุป
เกษตรกรยุคใหม่มักจะเลือกใช้พลาสติกโรงเรือน เพราะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมต่อการเจริญเติบโตของพืช ป้องกันลม ฝน และแสงแดด ทำให้สภาพแวดล้อมเหมาะสมแก่การเจริญเติบโต จึงทำให้ผลผลิตสูงขึ้นได้ และยังมีคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังช่วยให้เกษตรกรประหยัดต้นทุนลงได้ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนด้านน้ำและยาฆ่าแมลง